วิตามินซี (Vitamin C): วิตามินซีมีบทบาทสำคัญในการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่จำเป็นสำหรับการสร้างและซ่อมแซมเซลล์ผิวหนัง ช่วยให้ผิวหนังกระจ่างใสและเปล่งปลั่งยิ่งขึ้น
วิตามินอี (Vitamin E): วิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณสมบัติช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากความเสียหายจากรังสี UV และมลภาวะต่างๆ ช่วยลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำบนผิวหนัง
วิตามินเอ (Vitamin A): วิตามินเอมีบทบาทสำคัญในการสร้างเซลล์ผิวหนังใหม่ ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่หมองคล้ำออกไป ทำให้ผิวกระจ่างใสยิ่งขึ้น
วิตามินบี 3 หรือไนอาซิน (Vitamin B3 or Niacin): วิตามินบี 3 มีคุณสมบัติช่วยลดการสร้างเมลานิน ซึ่งเป็นเม็ดสีที่ทำให้ผิวคล้ำลง ช่วยปรับสีผิวให้ขาวกระจ่างใส
วิตามินเค (Vitamin K): วิตามินเคช่วยลดเลือนรอยคล้ำใต้ดวงตาและรอยช้ำบนผิวหนัง ช่วยให้ผิวแลดูขาวกระจ่างใสและสุขภาพดี
วิตามินดี (Vitamin D): วิตามินดีช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งผิวหนัง
วิตามินบี 12 (Vitamin B12): วิตามินบี 12 มีบทบาทสำคัญในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและการทำงานของระบบประสาท ช่วยให้ผิวพรรณสดใส
สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract): สารสกัดจากเมล็ดองุ่นมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นสูง ช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากความเสียหายและช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสยิ่งขึ้น
14 thoughts on “8 วิตามินผิวขาว”
Comments are closed.
วิตามินผิวขาวเนี่ย ช่วยเรื่องผิวเท่านั้นรึเปล่าคะ แล้วถ้าคนผิวดำทานจะขาวขึ้นมั้ย
คนที่เขียนบทความนี้คงไม่เคยลองพวกวิตามินพวกนี้จริงๆ
ท่าทางจะดีอ่า ต้องไปลองมั่งละ
เอาวิตามินมาทาผิวเลยดีกว่าไหม งงมาก
ขาวขึ้นแค่ไหนก็ได้ แค่ผิวไม่เหี่ยวก็พอ
ถ้ากินวิตามินผิวขาว แล้วผิวขาวขึ้นจริง คนดำคงหมดความมั่นใจ
วิตามินเหล่านี้ควรทานในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรทานมากเกินไปเพราะอาจเป็นอันตรายได้
เดี๋ยวนี้มีวิตามินที่ช่วยให้ผิวขาวด้วยหรอเนี่ย
ผิวขาวไม่ใช่คำตอบของความสวยงาม
วิตามินพวกนี้มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง น่ากลัวจัง
ขาวแค่ไหนก็หนีความแก่ไม่พ้น
ตัวไหนดีวะ ทานแล้วขาวจริงไหม
ไปหาหมอผิวหนังดีกว่ามั้ย วิตามินพวกนี้ก็ไม่รู้ว่าได้ผลจริงหรือเปล่า
ทาครีมกันแดดยังได้ผลกว่ากินวิตามินเยอะแยะ