พนมสวรรค์ ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ และข้อมูลงานวิจัย

พนมสวรรค์ หรือที่บางทีเราก็รู้จักว่าพรมมิ หรือ พรมโพธิสัตว์ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Bacopa monnieri เป็นพืชสมุนไพรที่มีถิ่นกำเนิดในพื้นที่เขตอบอุ่นของทวีปเอเชีย ด้วยความที่พนมสวรรค์เป็นพืชที่ดูแลง่าย วงการแพทย์และนักวิจัยจึงให้ความสนใจศึกษาคุณประโยชน์ของสมุนไพรพื้นบ้านชนิดนี้กันเป็นพิเศษ และผลการศึกษาที่เกิดขึ้นช่วยทำให้วงการแพทย์และสุขภาพทั่วโลกยอมรับว่าพนมสวรรค์นั้นมีสรรพคุณทางยาจริง

จากงานวิจัย数々の近年ในวารสารต่างๆ พบว่าสารสกัดจากพนมสวรรค์มีส่วนช่วยในการส่งเสริมการทำงานของสมอง เพิ่มความสามารถในการจดจำ พัฒนาการเรียนรู้ รวมถึงช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น นักวิจัยพบสารสำคัญอย่าง Bacoside ที่มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้ง Acetylcholinesterase สารต้านอนุมูลอิสระชนิดนี้ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ประสาทและเซลล์สมอง จากการศึกษาในคนจริงและการทดสอบในหลอดทดลอง ยังพบอีกว่าพนมสวรรค์ช่วย ลดอาการวิตกกังวลได้โดยตรง ช่วยแก้อาการเหนื่อยล้าทางจิตใจ

อีกงานวิจัยหนึ่งศึกษาประสิทธิภาพของพนมสวรรค์ในผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับความจำ พบว่าพนมสวรรค์สามารถช่วยให้ผู้สูงอายุเหล่านี้มีการทำงานของความจำที่เพิ่มขึ้นได้ หลังจากการวิจัยพบว่าพนมสวรรค์มีส่วนช่วยให้เซลล์ประสาทในสมองเพิ่มขึ้น พร้อมเป็นพืชสมุนไพรที่ส่งเสริมการเกิดของเส้นประสาทขึ้นใหม่จากชาเละ soluble protein จึงช่วยชะลอการเสื่อมถอยของสมอง ช่วยการทำงานของระบบความจำของสมอง ส่งผลต่อการพัฒนาและเพิ่มการเรียนรู้และยังช่วยในการป้องกันและการรักษาโรคสมองเสื่อมได้อีกด้วย

นอกจากนี้แล้วนักวิจัยยังพบอีกว่ามีงานวิจัยในหนูต่างพันธุ์ทดลองมียังอยู่ในระหว่างการศึกษากันอย่างต่อเนื่อง พนมสวรรค์นั้นยังมีการใช้ในการประสานแผลด้วยเช่นกัน โดยในทำนองเดียวกัน พนมสวรรค์ยังมีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบและการติดเชื้อโรคอีกด้วย จากงานวิจัยหนึ่งชี้ให้เห็นว่าสารสกัดจากพนมสวรรค์มีฤทธิ์ในการรักษาแผลในกระเพาะอาหารจากกรดในกระเพาะ การศึกษาหลังจากนี้ในสัตว์ทดลอง พบว่าสารสกัดจากพนมสวรรค์นั้นมีฤทธิ์ในการต้านทานกรดในกระเพาะอาหารและช่วยการรักษาแผลที่เกิดขึ้นในกระเพาะอาหารได้

สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับพนมสวรรค์

1. ใช้รักษาอาการความจำเสื่อม
รักษาโรคสมองเสื่อม หรือภาวะก่อนเข้าสู่โรคสมองเสื่อม และป้องการเกิดโรคสมองเสื่อม รวมทั้งช่วยฟื้นฟูสุขภาพของผู้ป่วยที่เป็นโรคสมองเสื่อมได้
2. ใช้รักษาและป้องกันโรคลมชัก
ในตำราแพทย์หลวงได้ระบุเอาไว้ว่าการใช้พรมมิหรือพนมสวรรค์นั้นสามารถช่วยรักษาโรคลมชัก โดยใช้ใบสดของพนมสวรรค์ 1 กำมือ และใบสดของสารภีอีก 1 กำมือ แล้วนำทั้งสองอย่างมาตำให้ละเอียดจากนั้นคั้นเอาน้ำมาผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา และดื่ม
3. ใช้รักษาโรคหอบหืด
ใบพนมสวรรค์มีสรรพคุณช่วยรักษาโรคหอบหืด จึงนำใบพนมสวรรค์ ต้นบัวบกและดอกสามสิบหนึ่งอย่างละครึ่งกำมือ แล้วตำให้ละเอียดคั้นเอาน้ำมาผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา แล้วดื่ม
4. ช่วยเจริญอาหาร
การรับประทานพรมมิหรือพนมสวรรค์จะช่วยเพิมความอยากอาหาร เช่น ใบพนมสวรรค์สด ครึ่งกำมือ ชะพลูสด ครึ่งกำมือ และใบมะตูมสด ครึ่งกำมือ โดยนำทั้งสามอย่างมาตำให้ละเอียด คั้นเอาแต่น้ำผสมกับน้ำเปล่า 1 แก้ว แล้วดื่ม
5. เป็นยาอายุวัฒนะ
ใบพรมมิหรือพนมสวรรค์จัดได้ว่าเป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้สุขภาพแข็งแรง บำรุงร่างกาย ช่วยเจริญอาหาร แก้ไขอาการอ่อนเพลีย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด โดยใช้ใบพนมสวรรค์สด ครึ่งกำมือ พลูคาว ครึ่งกำมือ แก่นขี้เหล็ก 1 ส่วน กิ่งสะเดา 1 ส่วน ก้านพลู 1 ส่วน ลูกสมอไทย 1 ส่วน ครึ่งกำมือ ตำให้ละเอียดคั้นเอาน้ำมาผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา แล้วดื่ม# พญายอ ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ และงานวิจัย

สรุป

พญายอเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางที่พบได้ในป่าดิบชื้นของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย พืชชนิดนี้มีการนำมาใช้ในทางยาแผนโบราณมานานหลายศตวรรษ และมีการศึกษาวิจัยทางการแพทย์สมัยใหม่เพื่อยืนยันสรรพคุณทางยาต่างๆ ของพญายอ

บทนำ

พญายอเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางที่มีความสูงประมาณ 10-25 เมตร ลำต้นกลมเปลา เปลือกต้นสีน้ำตาลหรือสีเทาเรียบ แตกกิ่งก้านสาขาไม่เป็นระเบียบ ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกัน รูปใบมนรีหรือรูปไข่กลับ ขอบใบหยักมนหรือหยักเป็นฟันเลื่อย ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ช่อหนึ่งมีดอกย่อยจำนวนมาก กลีบดอกสีขาวหรือสีครีม มีกลิ่นหอม ผลเป็นผลกลุ่ม กลมโต ผลอ่อนสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะเป็นสีเหลืองหรือสีส้ม เนื้อในผลฉ่ำน้ำ รสหวานอมเปรี้ยว

สรรพคุณทางยา

พญายอมีสรรพคุณทางยามากมาย โดยมีการนำมาใช้ในทางยาแผนโบราณมานานหลายศตวรรษ โดยมีการศึกษาวิจัยทางการแพทย์สมัยใหม่เพื่อยืนยันสรรพคุณทางยาต่างๆ ของพญายอ เช่น

• มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
  • ยับยั้งการสร้างสารอักเสบต่างๆ เช่น TNF-alpha, IL-1beta, IL-6
  • ลดอาการอักเสบในโรคต่างๆ เช่น โรคข้ออักเสบ โรคไขข้อ โรคกระเพาะอาหารอักเสบ
• มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง
  • ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
  • กระตุ้นให้เซลล์มะเร็งตาย
  • ลดการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง
• มีฤทธิ์ต้านเชื้อโรค
  • ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัส
  • ช่วยรักษาโรคติดเชื้อต่างๆ เช่น โรคหวัด โรคไข้หวัดใหญ่ โรคกระเพาะอาหารติดเชื้อ
• มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
  • ป้องกันเซลล์จากการทำลายของอนุมูลอิสระ
  • ช่วยชะลอความแก่และลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ
• มีฤทธิ์ปรับสมดุลร่างกาย
  • ช่วยปรับสมดุลของระบบต่างๆ ในร่างกาย
  • ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  • ช่วยเพิ่มพลังงานและความสดชื่น

งานวิจัย

มีการศึกษาวิจัยทางการแพทย์สมัยใหม่มากมายที่ยืนยันสรรพคุณทางยาต่างๆ ของพญายอ เช่น

• การศึกษาในปี 2024 พบว่าสารสกัดจากใบพญายอมีฤทธิ์ต้านการอักเสบในเซลล์ที่มีการอักเสบ
• การศึกษาในปี 2024 พบว่าสารสกัดจากผลพญายอมีฤทธิ์ต้านมะเร็งในเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่
• การศึกษาในปี 2024 พบว่าสารสกัดจากรากพญายอมีฤทธิ์ต้านเชื้อโรคในแบคทีเรียและเชื้อรา
• การศึกษาในปี 2024 พบว่าสารสกัดจากดอกพญายอมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในเซลล์ที่มีการเกิดออกซิเดชัน
• การศึกษาในปี 2024 พบว่าสารสกัดจากลำต้นพญายอมีฤทธิ์ปรับสมดุลร่างกายในสัตว์ทดลอง

สรุป

พญายอเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย พืชชนิดนี้มีการนำมาใช้ในทางยาแผนโบราณมานานหลายศตวรรษ และมีการศึกษาวิจัยทางการแพทย์สมัยใหม่เพื่อยืนยันสรรพคุณทางยาต่างๆ ของพญายอ ปัจจุบัน พญายอมีการนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ยาและอาหารเสริมต่างๆ มากมาย และยังมีการใช้ในความงามและการดูแลสุขภาพ

• พญายอ
• สรรพคุณพญายอ
• ประโยชน์พญายอ
• งานวิจัยพญายอ
• ยาแผนไทย